Snow Bingsoo เย็น นุ่ม หิมะเกาหลี

เกล็ดหิมะ “Snow Bingsoo” แฟรนไชส์กิมจิบุกตลาดเมืองไทยอีกแบรนด์ ช่างเหมาะกับอากาศร้อนเสียนี่กระไรเกล็ดหิมะ “Snow Bingsoo” แฟรนไชส์กิมจิบุกตลาดเมืองไทยอีกแบรนด์ ช่างเหมาะกับอากาศร้อนเสียนี่กระไร

หน้าตาของ Snow Bingsoo Snow Ice เกาหลี พยายามเลียนแบบความเนียนนุ่มของหิมะ จะต่างกันตรงหิมะกินปุ๊บละลายในปากปั๊บ ส่วนเกล็ดหิมะยี่ห้อนี้ ปลายลิ้นยังสัมผัสได้ถึงเกร็ดก้อนคล้ายน้ำแข็งที่ถูกทุบจนละเอียดยิบ
แต่ขอบอกว่ารสชาติอร่อยกว่ากันเยอะ เพราะในถ้วย Snow Bingsoo มีท็อปปิ้งหวานเจี๊ยบตัดกับความเย็นจัดได้ที่ ใครเป็นคอขนมหวานอาจวางไม่ลง
เจ้าของแบรนด์คือ Max & Mighty (Thailand) Co., Ltd. บริษัทเดียวกับที่ผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ยี่ห้อ MISSHA ไอศกรีมโยเกิร์ต red mango และกาแฟ TOM N TOM Coffee
เพิ่งไปอวดโฉมเปิดตัวพร้อมรับจองที่ไบเทคเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ยอดสั่งจองอย่าให้บอก แค่วันที่สองปล่อยออกไปแล้วเกือบร้อยเครื่อง (จองกันเยอะๆ แบบนี้ คงหาชิมได้ไม่ยาก)

Kim Im Yeop ซีอีโอ Max & Mighty (Thailand) ไปยืนตอบข้อมูลด้วยตัวเอง คำถามส่วนใหญ่คล้าย ๆ  กัน นักลงทุนอยากจะรู้ว่าซื้อไปแล้วคุ้มไหม ลงทุนเท่าไหร่ กี่เดือนคืนทุน เงื่อนไขเป็นอย่างไรบ้าง
ฟังคำตอบแล้ว ถ้าสนใจก็จองกันเลย
แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ red mango ต่างกันเยอะ เวลาคืนทุนก็ต่างกัน ยิ่งลงทุนสูงยิ่งคืนทุนช้า red  mango ลงทุน 3 ล้านบาท คืนทุนประมาณหนึ่งปีครึ่ง ส่วน Snow Bingsoo ลงทุนรวม 200,000 บาท เฉพาะค่าเครื่อง 150,000 บาท ที่เหลือแบ่งเป็น Franchise Fee บู๊ธ วัตถุดิบและอุปกรณ์ในงวดแรก ย้ำว่าเฉพาะงวดแรกเท่านั้น งวดต่อไปต้องมีเงินสำรองสำหรับซื้อวัตถุดิบเองด้วย

คุณคิมคุยว่าไม่แพง ไหนจะรวมค่าวัตถุดิบที่สั่งจากเกาหลี เช่น ถั่วแดง โมจิ ถ้วย ช้อน ตู้ เมื่อลงทุนไปแล้ว รอคืนทุนไม่เกิน 6 เดือน ส่วนท็อปปิ้งฟรุตสลัด สามารถซื้อใส่เองได้
ผู้ที่ต้องการลงทุนอาจให้บริษัทช่วยดูทำเลให้ด้วย เพราะทำเลนั้นสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด โดยเฉพาะผู้ที่ลงทุน เงินเป็นแสนนี่ไม่ใช่เล่น ๆ หรือถ้ามีที่ทางอยู่แล้ว ขอซื้อเฉพาะเครื่องไปตั้งไว้ที่ร้านก็ได้
เจ้าเครื่องนี้สามารถทำได้มากกว่าเกล็ดหิมะใส่ขนมหรือน้ำหวาน เช่น กาแฟหิมะ เพียงเทกาแฟที่ปรุงสำเร็จแล้วลงใน Snow Bingsoo จะได้รสชาติอร่อยไปอีกแบบ หรือจะหาท็อปปิ้งชนิดอื่นเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ซื้อ